[PR] เรื่องน่ารู้…เมื่อโทรศัพท์มือถือทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์ช่วยชีวิต

24 Feb 2013
380 ครั้ง


help

ถึงแม้โฆษณาโทรศัพท์มือถือของแต่ละค่ายจะมุ่งอวดอ้างคุณสมบัติด้านความแรงของสัญญาณความสนุกสนาน
ของแอพพลิเคชั่น หรือความทันสมัยของฟังก์ชั่นต่างๆเพื่อแข่งขันกันในตลาดมือถือเป็นหลัก คุณสมบัติเหล่านี้ก็
ไม่ได้ทำให้มือถือมีดีแค่เป็นเครื่องมือแก้เบื่อหรือตัวช่วยในการดำเนินชีวิตประจำวันเท่านั้น หากยังเอื้อให้อุปกรณ์
สื่อสารชนิดนี้กลายเป็นเครื่องช่วยชีวิตในสถานการณ์คับขันที่เกิดขึ้นกับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือจากหลายมุม
โลกในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาอีกด้วย 

2006

จากสถิติขององค์กร CTIA Wireless Foundation แห่งรัฐวอชิงตันดีซี ประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่าในแต่ละวัน มีการโทรศัพท์แจ้งเหตุฉุกเฉินจากมือถือไปยังสายด่วน 911 ถึงกว่า 291,000 สายและหนึ่งในนั้นก็มาจากเจ้าเบลล์ สุนัขเพศเมียพันธุ์บีเกิ้ลที่ได้รับการฝึกฝนอย่างดีจากเมืองออร์แลนโดรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ในเดือนมิถุนายนของปี 2006 เบลล์ได้ช่วยชีวิตเควิน วีเวอร์ เจ้าของที่มีอาการโรคเบาหวานกำเริบรุนแรงไว้ โดยเจ้าตูบแสนรู้ได้กัดเข้าที่ปุ่มหมายเลขบนมือถือของเควินในขณะที่เขาล้มลงไปนอนชัก เพื่อติดต่อกับ 911 ได้อย่างทันท่วงที เหตุการณ์น่าทึ่งนี้ทำให้เจ้าเบลล์กลายเป็นสุนัขตัวแรกที่ได้รับรางวัล VITA Wireless Samaritan Award ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับผู้ที่ใช้โทรศัพท์มือถือในการช่วยชีวิตการช่วยเหลือในยามฉุกเฉินหรือการป้องกันอาชญากรรม

2007

เมื่อเดือนกันยายน 2007 ในขณะที่แชนนอน เฮตเดินทางไปทำงานในเวลาเช้าตรู่ ชายแปลกหน้าคนหนึ่งได้เข้ามาทำทีถามทางเธอในที่จอดรถในเมืองเอลค์ ซิตี้ของรัฐโอกลาโฮมา ประเทศสหรัฐอเมริกา ก่อนที่จะจู่โจมด้วยการรวบตัวจากทางด้านหลังและโยนเธอเข้าไปในกระโปรงท้ายรถ แชนนอนไม่รอช้าที่จะควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋าถือเพื่อโทรเรียก 911 แต่เพราะความตื่นตระหนกเธอจึงกดผิดกดถูกจนไปโดนเบอร์ของมาร์ค สมิธ แฟนหนุ่มของเธอในบันทึกหมายเลขโทรด่วน มาร์คโทรหา 911 ให้เธอทันทีด้วยความหวาดกลัวไม่แพ้กัน โชคยังดีที่แม้แชนนอนจะตกใจกลัวมาก แต่เธอยังมีสติพอที่จะอธิบายรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายและรถยนต์ที่ใช้ได้อย่างแม่นยำ กว่าคนร้ายจะไหวตัวทันว่าเธอใช้โทรศัพท์มือถือและพยายามขับรถหลบหนี กองทัพรถตำรวจก็สามารถระบุตำแหน่งของคนร้ายและไล่ตามรถของเขามาติด ๆ แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถรวบตัวคนร้ายและช่วยแชนนอนออกมาจากกระโปรงหลังได้อย่างปลอดภัยในเวลาต่อมา ผลปรากฏว่าชายโฉดคนนี้คือผู้ต้องหาคดีลักพาตัวและข่มขืนที่กำลังเป็นที่หมายหัวจากทางการนามว่าฟลอยด์ สตีเวน คอลลินส์ ซึ่งถูกตั้งข้อหาและรับโทษจำคุกเป็นเวลา 50 ปีหลังจากเหตุการณ์ระทึกนี้

2008

ในเดือนมกราคมของปี 2008 นักศึกษาหญิงจากวิทยาลัยลูวิส แอนด์ คลาร์กในเมืองพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกาได้เสียการควบคุมขณะกำลังปั่นจักรยานผ่านสุสานริเวอร์วิว ซึ่งเป็นเส้นทางลัดยอดนิยมไปยังสะพานเซลวู้ด ตัวของเธอกระเด็นลงเนินเขาไปถึง 30 ฟุต ก่อนจะกระแทกพื้นและกลิ้งไปอีก 10 ฟุต ส่วนจักรยานก็พุ่งลงเขาไปราว 20 ฟุต ส่งผลให้เธออยู่ในสภาพที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ไปร่วมสองชั่วโมงกว่าจะสามารถรวบรวมพละกำลังที่เหลืออยู่ติดต่อเพื่อนร่วมห้องทางโทรศัพท์มือถือเพื่อให้แจ้งตำรวจได้ โชคดีที่เธอไม่มีอาการบาดเจ็บรุนแรงมากนักและโชคดีที่เธอพกมือถือ ไม่เช่นนั้นอาจจะไม่มีใครพบเธอเข้าเลยก็ได้

2009

กีฬาผาดโผนกับเครื่องมือสื่อสารทางธุรกิจดูไม่น่าจะไปด้วยกันได้ แต่การมารวมตัวกันของทั้งสองสิ่งในเดือนมิถุนายนปี 2009 ก็ได้ช่วยชีวิตเดวิด ฟิตซ์เฮอร์เบิร์ต นักสกีจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษไว้อย่างน่าอัศจรรย์ หิมะเป็นเหตุให้เดวิดพลัดตกลงไปในรอยแยกที่ลึกถึง 70 ฟุตขณะที่กำลังเพลิดเพลินกับการเล่นสกีในเทือกเขาแอลป์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในเสี้ยวนาทีแห่งความเป็นความตายนั้น สิ่งหนึ่งที่ช่วยยึดตัวเขาไว้ระหว่างกำแพงน้ำแข็งเพื่อไม่ให้ตกฮวบลงไปอีก 700 ฟุตก็คือโทรศัพท์ BlackBerry ในกระเป๋าหน้าอกของเสื้อแจ็คเก็ต เดวิดต้องติดอยู่ท่ามกลางอุณหภูมิที่เย็นจัดเป็นเวลาถึงสองชั่วโมงกว่าหน่วยกู้ภัยจะสามารถช่วยเขาขึ้นมาได้ นักสกีหนุ่มผู้เคราะห์ดีไม่ลืมที่จะโทรหาภรรยาจากโรงพยาบาลด้วย Smartphone เครื่องที่ช่วยชีวิตเขาไว้ ก่อนที่จะเข้ารับการรักษาภาวะอุณหภูมิในร่างกายต่ำและอาการบาดเจ็บที่ใบหน้าเป็นเวลาถึง 10 วัน

2010

ประเทศรวันดาถูกจัดอันดับว่ามีอัตราการเสียชีวิตของสตรีตั้งครรภ์สูงที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ด้วยเหตุนี้ทางรัฐบาลรวันดาจึงร่วมมือกับองค์กรสหประชาชาติส่งมอบโทรศัพท์มือถือให้กับอาสาสมัครสาธารณสุขเกือบ 500 คนในเขตมูซานเซ ในกลางดึกคืนหนึ่งของเดือนกรกฎาคม 2010 หญิงชาวบ้านวัย 23ปีเกิดเจ็บท้องคลอดบุตรกะทันหัน อาสาสมัครประจำหมู่บ้านอย่างเจอร์เมน อูเวราจึงใช้วิธีส่ง SMS ไปขอความช่วยเหลือด้วยมือถือที่ได้รับแจกมา และภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที รถพยาบาลก็ได้เดินทางมาถึงหมู่บ้านที่เจอร์เมนประจำการอยู่เปรียบเทียบกับก่อนหน้านั้นที่ใช้วิธีการหามผู้ป่วยด้วยเปลฉุกเฉินไปยังสถานีอนามัยที่อยู่ใกล้ที่สุด ซึ่งจะกินเวลาอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว

2011

ลีอา เวก้า วัยสองขวบจากเมืองฮูสตัน รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกาได้รับการยกย่องให้เป็นวีรสตรีรุ่นจิ๋วหลังจากช่วยชีวิตแม่ของเธอด้วยการใช้โทรศัพท์มือถือโทรขอความช่วยเหลือในเดือนตุลาคม 2011 ทันทีที่เห็นลาริสซา เทย์เลอร์ แม่ของเธอล้มหมดสติลงลีอาก็รีบหยิบ โทรศัพท์มือถือขึ้นมาและกดปุ่มโทรออกสองครั้งไปยังเบอร์ที่โทรออกล่าสุด ซึ่งเป็นเบอร์คุณยายของเธอเอง ลาริสซาถูกนำส่งโรงพยาบาลอย่างทันท่วงทีโดยแพทย์วินิจฉัยว่าเธอเกิดอาการชักเฉียบพลันอันเนื่องมาจากภาวะขาดน้ำตาลในเลือดและอาจถึงแก่ชีวิตได้หากนอนหมดสติต่อไปอีกเพียง 10 นาที

2012

เมื่อเดือนสิงหาคม 2012 ที่ผ่านมา หญิงชรานิรนามวัย 74 ปีที่อาศัยอยู่ในเมืองปาลาติน รัฐอิลลินอยส์ประเทศสหรัฐอเมริกาได้รับการช่วยชีวิตหลังจากที่ใช้โทรศัพท์มือถือโทรแจ้งหน่วยฉุกเฉินว่าเธอพลัดตกลงไปในท่อระบายน้ำที่ลึกถึงเจ็ดฟุต ถึงแม้ว่าหญิงชราจะสับสนในเรื่องของตำแหน่งท่อระบายน้ำและพื้นที่ใต้ดินที่เธอตกลงไปจะเป็นจุดอับสัญญาณ เจ้าหน้าที่ก็สามารถใช้ซอฟต์แวร์หาพิกัดคร่าว ๆ ของเธอได้ภายในเวลาไม่ถึง 10 นาทีหลังจากที่เธอโทรแจ้ง จนกระทั่งสามารถช่วยเธอขึ้นมาจากท่อระบายน้ำได้ในที่สุด ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นได้เลยหากเธอไม่มีโทรศัพท์มือถือ เนื่องจากท่อระบายน้ำที่ว่าตั้งอยู่ในเส้นทางลัดที่ไม่ค่อยมีผู้คนสัญจรไปมานัก

ที่มา: Mavens of London